เป็นที่ทราบกันดีว่า บรรจุภัณฑ์บลิสเตอร์ มักใช้บรรจุผลิตภัณฑ์ยา เช่น ยาเม็ด แคปซูล และยาอม โดยส่วนประกอบหลักของบรรจุภัณฑ์แบบบลิสเตอร์มักเป็นหลุมที่สร้างจากฟิล์มขึ้นรูป ด้วยกระบวนการขึ้นรูปด้วยความร้อน (Thermoforming) หรือ การขึ้นรูปด้วยความเย็น (Cold Forming)ซึ่งสามารถแบ่งประเภทบรรจุภัณฑ์แบบบลิสเตอร์ได้เป็น 4ประเภท ตามหลักวัสดุบรรจุภัณฑ์และหลักการขึ้นรูป ได้แก่ 1. บรรจุภัณฑ์แบบบลิสเตอร์แบบอะลูมิเนียม+พลาสติก จากกระบวนการขึ้นรูปด้วยความร้อน 2. บรรจุภัณฑ์แบบบลิสเตอร์แบบอะลูมิเนียม+อะลูมิเนียม จากกระบวนการขึ้นรูปด้วยความเย็น 3.บรรจุภัณฑ์แบบบลิสเตอร์แบบอะลูมิเนียม+พลาสติก+อะลูมิเนียมและ 4.บรรจุภัณฑ์แบบสตริปแพ็ค
เริ่มกันที่ประเภทแรกบรรจุภัณฑ์แบบบลิสเตอร์แบบอะลูมิเนียม+พลาสติก จากกระบวนการขึ้นรูปด้วยความร้อน มีการใช้พลาสติกเทอร์โมฟอร์มและอะลูมิเนียมฟอยล์เป็นแผ่นปิดผนึก โดยแผ่นทำความร้อนมีอุณหภูมิสูงพอที่จะทำให้พลาสติกนิ่มและยืดหยุ่นได้ จากนั้นพลาสติกจะถูกนำไปขึ้นรูป โดยใช้แรงดันอากาศสูงในการผลิตหลุมจากแม่พิมพ์ขึ้นรูป เมื่อบรรจุภัณฑ์แบบบลิสเตอร์หลุดออกมาจากแม่พิมพ์ จะทำให้พลาสติกเย็นลง พลาสติกกลับมาแน่น และคงรูปร่างไว้ได้ต่อมาเมื่อบรรจุผลิตภัณฑ์ยาลงไปในหลุมแล้ว จะมีการปิดผนึกด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์
ข้อดีของบรรจุภัณฑ์แบบบลิสเตอร์จากกระบวนการขึ้นรูปด้วยความร้อน ง่ายต่อการขึ้นรูปด้วยความร้อน ต้นทุนต่ำ ใช้งานง่าย ใช้พลาสติกประเภทพื้นฐานอย่าง พีวีซี หรือ โพลีไวนิลคลอไรด์ ตรวจสอบการชำรุดของผลิตภัณฑ์ได้ง่ายด้วยสายตา
ถัดมาประเภทที่สองบรรจุภัณฑ์แบบบลิสเตอร์แบบอะลูมิเนียม+อะลูมิเนียม จากกระบวนการขึ้นรูปด้วยความเย็น มีการใช้อะลูมิเนียมฟิล์มและอะลูมิเนียมฟอยล์เป็นแผ่นปิดผนึก โดยแผ่นลามิเนตที่ทำจากอะลูมิเนียมจะถูกขึ้นรูปในแม่พิมพ์ ต่อมาเมื่อบรรจุผลิตภัณฑ์ยาลงไปในหลุมแล้ว จะมีการปิดผนึกด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์
ข้อดีของบรรจุภัณฑ์แบบบลิสเตอร์จากกระบวนการขึ้นรูปด้วยความเย็นขึ้นรูปได้ง่าย สามารถป้องกันความชื้น แสง และออกซิเจนได้เป็นอย่างดี ช่วยยืดอายุของผลิตภัณฑ์ให้อยู่ได้นานขึ้น
ถัดมาประเภทที่สามบรรจุภัณฑ์แบบบลิสเตอร์แบบอะลูมิเนียม+พลาสติก+อะลูมิเนียม มีการใช้อะลูมิเนียม+พลาสติก จากกระบวนการขึ้นรูปด้วยความร้อน ตามที่กล่าวมาข้างต้น และปิดผนึกอีกด้านด้วยอะลูมิเนียม
ข้อดีของบรรจุภัณฑ์แบบบลิสเตอร์แบบอะลูมิเนียม+พลาสติก+อะลูมิเนียม มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับการขึ้นรูปด้วยความเย็น มีต้นทุนต่ำ สะดวกในการใช้งาน ตรวจสอบการชำรุดของผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็วอีกทั้งยังช่วยป้องกันผลิตภัณฑ์จากน้ำ แสง และ ออกซิเจน ได้เป็นอย่างดี
และสุดท้ายบรรจุภัณฑ์แบบสตริปแพ็ค ซึ่งจะแตกต่างจากบรรจุภัณฑ์แบบบลิสเตอร์ตรงที่ไม่มีการขึ้นรูปด้วยความร้อนหรือความเย็น แต่จะเป็นการปิดผนึกรอบๆยาเม็ดหรือแคปซูล
ข้อดีของบรรจุภัณฑ์แบบสตริปแพ็ค มีคุณสมบัติในการป้องกันเช่นเดียวกับการขึ้นรูปด้วยความเย็น ช่วยป้องกันผลิตภัณฑ์จากน้ำ แสง และ ออกซิเจน ได้เป็นอย่างดี
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.cppc.co.th/pvc-pipe-fitting/
และwww.cppcrigid.com
Recent Comments